ประเทศเวียดนาม นับว่าเป็นเพื่อนบ้านกับประเทศไทยมาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ ในประเทศเวียดนามแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ชนิดที่ว่าถ้าพลาดแล้วละก็น่าเสียดายเอามากๆ เลย เพราะในประเทศเวียดนามมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความงดงามของธรรมชาติเอาไว้ รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่ถือเป็นมรดกโลกอีกหลายแห่งด้วยกัน อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะอยู่ใกล้ๆ กับประเทศไทยบ้านเรา วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนตร์เสน่ห์อย่างน่ามหัศจรรย์ในประเทศเวียดนามมาให้ทุกคนได้ชมกันนะคะ
1.อ่าวฮาลองเบ
อ่าวฮาลองเบ เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ รอบล้อมไปด้วยผืนน้ำ และเกาะหินปูนที่โผล่ขึ้นกระจายไปทั่วๆ อ่าว อ่าวฮาลองเบแห่งนี้มีพื้นที่ถึง 1,500 ตารางกิโลเมตรกันเลยแหละค่ะ อ่าวฮาลองเบยังได้รับความชื่นชมจากนักท่องเที่ยวต่างๆ ที่มาเยือนว่าสวยงามเสมือนฉากในภาพยนต์หลายๆ เรื่องในตอนจบอีกด้วย
2.พระราชวังทังลอง
พระราชวังทังลองแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหมด พระราชวังทังลองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1379 สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะเป็นพระราชวังหินแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3.เมืองเก่าฮอยอันเมืองฮอยอัน
เมืองเก่าฮอยอันเมืองฮอยอันแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองท่าดานัง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร เมืองเก่าโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในบริเวณที่เคยเป็นไดเวียดกลางภายใต้การปกครองของขุนนางเหวียน และปรากฏอยู่ในแวดวงของนักเดินทางตะวันตกในศตวรรษที่ 17 และ 18 แรกเริ่มเมืองฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลในอาณาจักรจามปา เรียกกันในชื่อว่า ได๋เจียน โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ตราเกียว และมีศานสถานอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หมี่เซิน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองฮอยอันมากนัก
4.สุสานโฮจิมินห์
สุสานโฮจิมินห์ เป็นสุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์, ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์ แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย
5.อุโมงค์กู๋จี
อุโมงค์กู๋จีแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิด และเป็นที่สำหรับประชุมของกองกำลังเวียดกงในสมัยที่รบกับสหรัฐอเมริกา อุโมงค์กู๋จีถูกสร้างขึ้นให้มีหลายชั้น และแต่ละชั้นจะมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความอยู่รอดของทหารที่อาศัยอยู่ภายในอุโมงค์ ภายในของอุโมงค์กู๋จี ประกอบไปด้วยโรงพยาบาล ห้องประชุม และห้องพัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะได้รับชมหนังสั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเวียดนามก่อน เพื่อจะได้เข้าใจความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม
6.ปราสาทหมีเซิน
ปราสาทหมีเซิน เป็นโบราณสถานที่มีสถาปัตยกรรมแบบฮินดูที่สมบูรณ์ และเก่าแก่ที่สุดในอินโดจีน อดีตเคยเป็นนครศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรจาม หรือ จามปา ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าภัทรวรมันที่ 1 ในศตวรรษที่ 4 โดยถูกใช้เป็นศาสนสถานตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ในการทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้บันดาลพรและคุ้มครองราชวงศ์จาม รวมถึงเป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ ในยุครุ่งเรืองอาณาจักรจามครอบคลุมอาณาเขตตั้งแต่พื้นที่ทางตอนใต้ของฮานอย ไปถึงเวียดนามใต้ และจรดภาคตะวันออกของกัมพูชา ราชวงศ์ที่ครองราชย์มีด้วยกัน 14 ราชวงศ์ 78 พระองค์ ก่อนที่จะล่มสลายในช่วงศตวรรษที่ 15
7.พระราชวังเว้
พระราชวังเว้นั้นเดิมทีเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ในความปกครองของขุนนางเหวียนฮวาง (Nguyen Hoang) ในแผ่นดินของราชวงศ์เล แต่ราชวงศ์ปกครองได้ไม่นานก็เกิดสงครามแบ่งแยกดินแดนขึ้น ทางตอนเหนือและตอนใต้ เหวียนฉวาง หรือที่คนไทยรู้จักพระองค์ในชื่อว่า องเชียงสือ ซึ่งเป็นผู้ปกครองเวียดนามใต้อยู่ในขณะนั้นได้ปราบกบฏลง และรวบรวมดินแดนทางตอนเหนือและตอนใต้เข้าไว้ด้วยกันในปี พ.ศ. 2345 พร้อมกับสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิยาลองแห่งราชวงศ์เหวียน มีศูนย์กลางการปกครองอยู่เมืองเว้ ที่เป็นเมืองที่ตั้งของพระราชวังเว้นั้นเอง
8.พิพิธภัณฑ์สงคราม
พิพิธภัณฑ์สงคราม เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 โดยใช้ชื่อว่า Museum of American War Crimes เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงความเจ็บปวด ความเศร้าโศก เมื่อครั้งสงครามเวียดนาม ภายในมีการจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธ รถถัง เครื่องบินจู่โจม ฯลฯ ซึ่งอาวุธเหล่านั้นเป็นอาวุธที่ทหารอเมริกันใช้โจมตีเวียดนาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดในพิพิธภัณฑ์ คือ กรงเสือ ที่นำมาใช้เป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองถึง 14 คน รวมถึงเครื่องประหารชีวิตนักโทษการเมืองก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดลึก ๆ ในหัวใจของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี
9.อุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง
อุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่างเป็นสถานที่ควรค่าแก่การมาเยือนมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนามเลยก็ว่าได้ โดยอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง หรือประมาณ 400 ล้านปีมาแล้ว นั่นจึงส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีภูมิประเทศแบบหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย อุทยานนี้มีชื่อเสียงในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่อีกด้วย
10.ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน
ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบิ่งถ่วน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งรีสอร์ท” เพราะในหมุยแน้มีรีสอร์ทนับร้อยแห่ง และมีชายหาดที่งดงาม เป็นสถานที่พักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลายๆ คน เนื่องจากเป็นที่ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นั่นเป็นเมืองท่าเรือประมงที่เงียบสงบ และมีทัศนียภาพที่สวยงาม จึงทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในประเทศเวียดนาม ไม่ได้มีเพียงแค่เท่านี้นะคะ ยังมีอีกหลายๆ สถานที่ที่รอให้ทุกคนได้ไปเที่ยวชมกัน เรียกได้ว่าไปประเทศเวียดนามประเทศเดียวครบทุกรสทุกบรรยากาศอย่างแน่นอน ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่สามารถเดินทางไปกันได้ง่ายๆ เพราะประเทศเวียดนาม เป็นประเทศใกล้เคียง หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง ที่สำคัญอาหารเวียดนาม ยังทานง่าย และอร่อยถูกปากคนไทยอีกด้วย ไม่ใช่มีเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวนะคะ แถมค่าครองชีพในประเทศเวียดนามก็ถูกอีกเช่นเดียวกัน หากใครจะลองเปลี่ยนบรรยากาศหาสถานที่ท่องเที่ยว ออกไปพักผ่อนใกล้ๆ บ้านเราก็สามารถเลือกประเทศเวียดนามไว้เป็นจุดหมายปลายทางได้นะคะ
