ใบอนุญาต 11/09646

"อียิปต์" ดินแดนอารยธรรม

"อียิปต์" ดินแดนอารยธรรม

“อียิปต์” ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณยาวนานกว่า 3,200 ปีก่อนคริสตกาล เป็นประเทศที่มีเสน่ห์มนต์คลังอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่มีประเทศไหนเหมือน

.

ถ้าพูดถึงจุดหมายที่ต้องไปในประเทศอียิปต์ สิ่งที่หลาย ๆ คนนึกถึงก็คงเป็น “มหาพีระมิดแห่งกิซ่า” ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่าที่ตั้งอยู่ในประเทศอียิปต์ แต่นอกจากมหาพีระมิดแห่งกิซ่าแล้วในประเทศอียิปต์ยังมีอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่เราสามารถไปชมความงามและศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศอียิปต์

.

จะมีสถานที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ

7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อไปอียิปต์

 

1.) มหาพีระมิดแห่งกิซ่า The Great Pyramid of Giza

ตั้งอยู่บนที่ราบสูงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ แถบชานเมืองของกรุงไคโร เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า สิ่งก่อสร้างที่เต็มไปด้วยปริศนาให้มนุษย์ได้มาศึกษาและค้นคว้าหาคำตอบของสิ่งก่อสร้างอันมหัศจรรย์นี้
.
มหาพีระมิดแห่งกิซ่าประกอบไปด้วยพีระมิด 3 องค์ด้วยกัน ได้แก่

🐫 พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือมหาพีระมิดแห่งกิซ่า มีความสูงมากที่สุดในพีระมิด 3 องค์ โดยมีความสูง 450 ฟุต แต่ในอดีตพีระมิดคูฟู มีความสูงถึง 481.4 ฟุต
.
🐫 พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพีระมิดคูฟูและพีระมิดเมนคูเร จุดเด่นของพีระมิดคาเฟรคือชั้นหินปูนขัดมันที่ส่วนยอดของพีระมิด
.
🐫 พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) เป็นพีระมิดที่มีขนาดเล็กและอายุน้อยที่สุด พีระมิดเมนคูเรถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระศพของราชวงศ์กษัตริย์เพื่อรอการฟื้นคืนชีพตามความเชื่อของชาวอียิปต์

2.) มหาวิหารอะบูซิมเบล Abu Simble Temples

วิหารที่สร้างขึ้นจากการเจาะหินก้อนใหญ่จำนวน 2 ก้อน มหาวิหารอะบูซิมเบลเป็นมหาวิหารที่สวยงามตามแบบฉบับอียิปต์โบราณ และได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO
.
ตัววิหารแบ่งออกเป็น 2 วิหารคือวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อองค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramses II) และวิหารของพระนางเนเฟอร์ตารี (Nefertari) พระมเหสีของพระองค์
.
ด้านหน้าของวิหารจะมีรูปแกะสลักขององค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่นั่งประทับบนบัลลังก์ 4 องค์ แต่ละองค์มีความสูง 20 เมตร รูปปั้นหันหน้าไปทางแม่น้ำไนล์เพื่อแสดงถึงพลังอำนาจของฟาโรห์ที่คอยปกป้องดูแลเรือใบที่แล่นในแม่น้ำไนล์
.
มหาวิหารอะบูซิมเบลถูกสร้างขึ้นเนื่องจาก 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือเป็นอนุสรณ์สถานให้กับองค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และพระมเหสี เหตุผลที่สองคือเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์ที่ชนะนิวเบียในสมรภูมิแห่งคาเดส

3.) วิหารคาร์นัค Karnak Temple Complex

มหาวิหารที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในอียิปต์ วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอนรอ (สุริยะเทพ) และไว้ใช้จัดพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ
.
จุดเด่นของวิหารแห่งนี้คือ รูปปั้นสฟิงซ์หัวแกะที่หมอบอยู่ด้านหน้าวิหาร เรียงรายจนถึงด้านใน วิหารคาร์นัคประกอบด้วยวิหารหลัก 3 วิหาร และวิหารขนาดเล็กบริเวณรอบ ๆ
.
ไฮไลท์ของวิหารคาร์นัคคือ Great Hypostyle Hall ห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากถึง 65,000 ตารางฟุต ภายในประกอบไปด้วย เสาไฮโปสไตล์สูง 70 ฟุต ขนาด 12 คนโอบ และมีจำนวนเสามากถึง 134 ต้น เรียงต่อกัน 16 แถว

3.) หุบเขากษัตริย์ Valley of the Kings

หุบเขาแห่งนี้เป็นหลุมฝังพระศพของกษัตริย์ ราชวงศ์ และขุนนางอียิปต์โบราณ ที่หุบเขานี้มีหลุมฝังศพถึง 63 หลุม แต่ละหลุมจะมีห้องขนาดเล็กใหญ่ต่างกันไป โดยมีจำนวนห้องมากถึง 120 ห้อง
.
ไฮไลท์ของหุบเขาแห่งนี้ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาชมอย่างไม่ขาดสายนั้นก็คือการค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันตามุน (King Tutankhamun) เพราะภายในสุสานนั้นเต็มไปด้วยสมบัติมากมายมหาศาลที่ถูกบรรจุไว้ในตู้ทองคำถึง 4 ชั้น และโลงพระศพของพระองค์ยังประดับด้วยทองอีก 3 ชั้น ส่วนของพระศพยังมีหน้ากากทองคำที่จำลองพระพักตร์ของพระองค์ไว้อีก
.
นอกจากความยิ่งใหญ่ อลังการและรุ่งเรืองของสุสานแห่งนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้สุสานแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีกคือ เรื่องลี้ลับของคำสาปฟาโรห์เหนือสุสานมีข้อความภาษาอียิปต์โบราณเขียนไว้ว่า “มัจจุราชจะมาสู่ผู้ซึ่งรบกวนการบรรทมของฟาโรห์” หลังจากที่มีการค้นพบสุสานแห่งนี้และทำการเปิดสุสาน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเปิดสุสานเสียชีวิตอย่างปริศนา โดยไม่ทราบสาเหตุถึง 22 คน

 

4.) พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ Egyptian Museum

พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวัตถุโบราณและของล้ำค่าหลากหลายยุคสมัยไว้ ซึ่งมีมากถึง 120,000 รายการ ทุกท่านสามารถเดินชมและศึกษาได้อย่างใกล้ชิด
.
สิ่งที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถหาดูได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากทองคำที่เชื่อกันว่าเป็นของฟาโรห์ตุตันตามุน ที่ถูกเลาะออกมาจากพระพักตร์ หน้ากากนี้มีอายุถึง 300 ปี
.
และในพิพิธภัณฑ์ยังมีสิ่งของต่าง ๆ อีกมากมายมาจัดแสดงให้ทุกท่านได้ชมอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นโลงศพทองคำแท้หนัก 110 กิโลกรัม  กำไลทองคำจากหลุมฝังศพของฟาโรห์ตุตันตามุน อัญมณี เครื่องประดับต่าง ๆ งาช้าง และผลงานศิลปะอียิปต์โบราณ

 

5.) แม่น้ำไนล์ Nile River

สำหรับใครที่ไปเที่ยวชมโบราณสถานต่าง ๆ จนหนำใจ แล้วอยากจะเที่ยวแบบชิล ๆ เราขอแนะนำให้มาล่องเรือแม่น้ำไนล์ ชมบรรยากาศของบ้านเมืองและวิถีชีวิตของชาวบ้านริมแม่น้ำ
.
แม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก แม่น้ำสายนี้ถือเป็นจุดกำเนิดของอารยธรรมอียิปต์โบราณเลยก็ว่าได้

 

6.) วิหารคอมออมโบ Kom Ombo Temple

วิหารคอมออมโบมีอีกชื่อว่า “วิหารสองเทพเจ้า” วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพโซเบ็กและเทพฮาโรเอริส ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และเทพเจ้าแห่งการแพทย์
.
วิหารตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่ล้ำออกมาถึงแม่น้ำไนล์ หินที่นำมาใช้ในการสร้างวิหารแห่งนี้แตกต่างจากวิหารหลังอื่น ๆ แปลนของวิหารก็มีความเฉพาะตัว
.
ภายในวิหารมีห้องเล็ก ๆ สำหรับการเก็บมัมมี่จระเข้ 2 ตัว ตามฝาผนังของวิหารจะมีภาพแกะสลักพร้อมคำบรรยาย โดยภาพแกะสลักจะเกี่ยวกับการแพทย์ในสมัยนั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง